| |
|
|
|
|
|
| |
บทนำ |
|
| |
|
|
สภาวิศวกรจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 มีสถานะเป็นนิติบุคคล ทำหน้าที่ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม รวมทั้งพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม รับรองความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม รวมทั้งเสนอแนะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการกำหนดและการเลิกสาขาวิศวกรรมควบคุมและออกข้อบังคับสภาวิศวกร โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะสภานายกพิเศษ |
|
| |
|
|
|
|
| |
ความเป็นมา |
|
| |
|
|
ในอดีตวิศวกรไทยได้รวมตัวกันภายใต้สถาบันวิชาชีพ คือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) ตั้งแต่ พ.ศ.2486 ต่อมา รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. 2505 ขึ้น เมื่อสภาพเศรษฐกิจ สังคมมีการเปลี่ยนแปลง มีความต้องการวิศวกรมากขึ้น จึงมีการเร่งผลิตวิศวกร เป็นผลให้งานวิศวกรรมมีปัญหาเรื่องคุณภาพงาน จำเป็นต้องมีการปลูกฝังจิตสำนึกทางด้านจรรยาบรรณและมีการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงหลายครั้งจนมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของวิชาชีพวิศวกรรม อาทิ เหตุการณ์จากรถบรรทุกแก็สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่เมื่อปี พ.ศ.2532 ไฟไหม้โรงงาน อาคารถล่มที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทบวงมหาวิทยาลัย และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ จึงได้มีการจัดสัมมนาระดมความคิดและได้ข้อสรุปในการจัดตั้ง สภาวิศวกร รวม 4 ประการคือ
1. ให้มีสภาวิชาชีพที่สามารถปกครอง ควบคุมและกำกับดูแลกันเอง สภาวิศวกรจึงต้องมาจากการเลือกตั้งของสมาชิก
2. ให้มีความคล่องตัวในการบริหารงานโดยอิสระจึงต้องมีสถานภาพเป็นนิติบุคคล
3. ให้สภาวิศวกรมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลควบคุม ส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาการประกอบวิชาชีพอย่างต่อเนื่องทันต่อวิทยาการและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
4. ให้มีการประกอบวิชาชีพด้วยมาตรฐานหนึ่งเดียวไม่ว่าจะเป็นราชการหรือเอกชน และจะไม่มีการยกเว้นสำหรับคนต่างชาติ
ต่อมาได้มีการร่างพระราชบัญญัติวิศวกรเมื่อปี พ.ศ.2538 โดยคณะบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิทางวิศวกรรม จนในที่สุดพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 จึงได้เกิดขึ้นและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
|
|
| |
|
|
|
|
| |
องค์ประกอบของสภาวิศวกร |
|
| |
|
|
1. สมาชิกสภาวิศวกรแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ สมาชิกสามัญ สมาชิกวิสามัญและสมาชิกกิตติมศักดิ์ซึ่งสมาชิกเหล่านี้จะเป็นผู้อนุมัตินโยบายการบริหารงานของคณะกรรมการสภาวิศวกรในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี
2. คณะกรรมการสภาวิศวกร จำนวน 20 คน มาจากการเลือกตั้งโดยสมาชิกสภาวิศวกร15 คน (เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 10 คน เป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษา 5 คน) กรรมการสภาวิศวกรอีก 5 คน มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีจากการเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรรมการสภาวิศวกรมีหน้าที่ออกใบอนุญาตฯ รับรองปริญญาฯ รับรองความรู้ความชำนาญพิเศษ และออกข้อบังคับ ระเบียบต่างๆ
3. คณะกรรมการจรรยาบรรณ มาจากการแต่งตั้งตามมติของที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกรมีหน้าที่พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่มีการกล่าวหา ว่าผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
4. คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และผู้ชำนาญพิเศษมาจากการแต่งตั้งของที่ประชุมกรรมการสภาวิศวกรมีหน้าที่ตามที่กรรมการสภาวิศวกรกำหนด
5. ผู้ตรวจสภาวิศวกร ที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกรแต่งตั้งจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอกวิศวกร มีหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกรแล้วทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกร
6. สำนักงานสภาวิศวกร ประกอบด้วยงาน 5 ฝ่าย คือ
6.1. ฝ่ายทะเบียนและใบอนุญาต
6.2. ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพวิศวกรรม
6.3. ฝ่ายบริหาร ประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ
6.4. ฝ่ายการเงิน บัญชี งบประมาณและการพัสดุ
6.5. ฝ่ายกฎหมายและจรรยาบรรณ
สำนักงานสภาวิศวกรมีหัวหน้าสำนักงานสภาวิศวกรบริหารงานภายใต้การกำกับดูแลของเลขาธิการสภาวิศวกร |
|
| |
|
|
|
|
| |
นโยบายคณะกรรมการสภาวิศวกร ปี 2546 - 2549 |
|
| |
|
|
|
|
| |
|
ด้านการศึกษา |
|
| |
|
|
1. ส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันการศึกษาเพื่อผลิตวิศวกรที่มีคุณภาพและคุณธรรม
2. เตรียมการให้มีการสอบวิศวกรระดับภาคีเพื่อออกใบอนุญาต
3. สนับสนุนให้มีการวิจัยระหว่างภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา |
|
| |
|
ด้านการประกอบวิชาชีพ |
|
| |
|
|
1. จัดให้มีมาตรฐานวิชาชีพวิศวกรรม
2. ส่งเสริมและดำเนินการให้วิศวกรทั้งภาครัฐและเอกชนมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมอย่างต่อเนื่องในระดับชาติและในระดับสากล |
|
| |
|
ด้านสมาชิก |
|
| |
|
|
1. คุ้มครองผลประโยชน์ของสมาชิก
2. ให้การบริการสมาชิกให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วทั่วถึง
3. ประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลและความรู้แก่สมาชิก
ด้านการให้คำปรึกษางานวิศวกรรมแก่รัฐบาล
1. ให้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในนโยบายและปัญหาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
2. ผลักดันแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาด้านวิศวกรรมให้บรรจุเป็นส่วนสำคัญหลักในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
|
| |
|
ด้านการให้คำปรึกษางานวิศวกรรมแก่รัฐบาล |
|
| |
|
|
1. ให้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในนโยบายและปัญหาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
2. ผลักดันแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาด้านวิศวกรรมให้บรรจุเป็นส่วนสำคัญหลักในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
|
| |
|
|
|
|
| |
บทส่งท้าย |
|
| |
|
|
วิชาชีพวิศวกรรม เป็นวิชาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สร้างสรรค์ความเจริญและรายได้ให้แก่ประเทศ เกี่ยวเนื่องต่อการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจน สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต ดังนั้น เพื่อรักษาทั้งเกียรติ ศักดิ์ศรี และความไว้วางใจที่บุคคลทั่วไปมอบให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม วิศวกรจึงต้องถึงพร้อมในเรื่องของความรู้ คุณภาพ คุณธรรม และจรรยาบรรณ โดยสภาวิศวกรเป็นองค์กรหลักที่จะช่วยส่งเสริม พัฒนาวิศวกรให้ก้าวหน้า และผดุงเกียรติแห่งวิชาชีพวิศวกรรมไว้ตลอดไป
|
|
| |
|
|
|
 |